เมาริซิโอ ซาร์รี ชายที่ถูกตีราคาต่ำเกินไป

เมาริซิโอ ซาร์รี เป็นคนอิตาลี โดยเกิดที่เมืองเนเปิลส์ หรือนาปูเล หรือชื่อที่พวกเราคุ้นหูคือนาโปลี เมือง


หลักของแคว้นคัมปาเนีย เขาเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 1959 (ปัจจุบันอายุ60ปี)
แรกเริ่มเดิมที เขาหาได้มีความรู้เรื่องโค้ชเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นนายธนาคารแห่งหนึ่ง เขาเดินทางไปทั่วยุโรป เพื่อทำงานในลอนดอน ซูริค ลักเซมเบิร์ก สุดท้ายเขาตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อมาเรียนเป็นโค้ชฟุตบอล เพื่อเดินตามความฝันของเขา นั่นคือการเป็นโค้ชฟุตบอล
เส้นทางสายลูกหนังของ ซาร์รี นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ในวัย 31 ปีเขาเริ่มต้นอาชีพใหม่ครั้งแรกกับทีม ซิต้า สโมสรสมัครเล่นของ อิตาลี หลังจากที่เขาคุมทีมระดับล่างอยู่นานพอสมควร เขาถูกจับจ้องจากสื่อบ้านเกิดในอิตาลี เมื่อสามารถพา เอ็มโปลี เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดของแดนมักกะโรนีได้สำเร็จในฤดูกาล 2014/15 ชื่อของซาร์รีเริ่มถูกพูดถึง (ก่อนหน้านั้นเขาเคยคุม เปสคาร่า อาเรสโซ่ อเวลลิโน่ เวโรน่า เปรูจา )
หลังจากที่ราฟาเอล เบนิเตซ อำลา นาโปลี ไป นายใหญ่ชาว อิตาเลียน รายนี้ก็ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีม นาโปลี
กระนั้น ดีเอโก้ มาราโดน่า และอีกหลายคนก็แปลกใจที่เขาเข้ามารับตำแหน่ง พร้อมกับคำถามที่ว่า เขาจะสานต่อผลงานของทัพ อัซซูรา ที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นได้อย่างไร และนั่นอาจเป็นเสียงเย้ยหยันที่แปรเปลี่ยนเป็นแรงผลักดัน ให้ ซาร์รี พาทีมดังจากเมือง เนเปิ้ลส์ จบอันดับ 2 ของลีกอิตาลี
ผลงานของ ซาร์รี ในการคุม นาโปลี นั้นน่าประทับใจมาก เพราะแม้ตัวผู้เล่นจะไม่ได้โด่งดังหรือมีสตาร์มากมาย แต่เขากลับพา เนเปิลส์ ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ
ฤดูกาล 2015/16 นาโปลี จบอันดับ 2 ของลีก
ฤดูกาล 2016/17 นาโปลี จบอันดับ 3 ของลีก
ฤดูกาล 2017/18 นาโปลี จบอันดับ 2 ของลีก
เมาริซิโอ ซาร์รี ได้รับรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีของ เซเรีย อา อิตาลี ในปี 2016/17
ซาร์รี่บอกว่า "สไตล์ฟุตบอลของผมก็คือฟุตบอลที่อิสระ ทุกคนสามารถยิงประตูได้ และสามารถผ่านบอลให้กันและกันได้ ที่สำคัญคือแฟนบอลต้องสนุกกับฟุตบอลของเรา"
และการกระทำมันสะท้อนคำพูดต่อแฟนบอล อัซซูรา ได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อเขาเล่นฟุตบอลสไตล์รุก ดุดัน กดดันเข้าใส่คู่แข่ง
ลูชาโน สปัลเล็ตติ เคยพูดถึง ซาร์รี ว่า "ถ้าหากว่า เมาริซิโอ ซาร์รี ยังคงทำงานธนาคาร ป่านนี้ผมเชื่อว่าเขาจะเป็นรัฐมนตรีกระทรวงการคลังไปแล้ว" นั่นแสดงว่าสปัลเล็ตติเห็นในความเก่งกาจของ ซาร์รี
ซาร์รีออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้เขาเดิมพันมันด้วยสิ่งที่คาดหวังมากกว่าเดิม ​สโมสรฟุตบอลเชลซี คือยักษ์ใหญ่ของยุโรป ความหวังของแฟนบอล ความกดดันในการคุมทีมย่อมมีมากกว่า นายธนาคารต้องสร้างฟุตบอลสวยงามที่เดอะบริดจ์
ฤดูกาลแรกของเขากับสิงห์บลูเริ่มต้นได้อย่างสวยหรู ​ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 12 เกม สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ชนะ 8 เสมอ 5 จากนั้นกราฟค่อย ๆ ไต่ลง และขึ้น ๆ ลง ๆ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ พร้อมกับเสียงของแฟนบอลที่เริ่ม F*** Sarri Ball ดังขึ้นเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ แต่เขาหาได้แคร์คำวิจารณ์เหล่านั้นและตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างหนัก เชื่อมั่นในแนวทางฟุตบอลของตัวเอง สุดท้ายแม้มันจะไม่ใช่ซีซั่นที่สวยหรูของ สิงห์บลู แต่การจนอันดับ 3 ใน พรีเมียร์ลีก เป็นรองแชมป์ ลีกคัพ และชูถ้วย ​ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก แบบไร้พ่าย นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ เชลซีไม่ล้มเหลวภายใต้การคุมทีมของอดีตนายธนาคารวัย 60 ปี และถือเป็นอีกฤดูกาลนึงที่ สิงโตน้ำเงินคราม มีถ้วยแชมป์ติดมือ
ตลอดระยะเวลา 29 เกือบ 30 ปี บนถนนสายลูกหนังของ ลุงเมาจอมดูด เขาไม่เคยพาทีมใดคว้าโทรฟี่ใด ๆ มาก่อนในชีวิต ถ้วย ยูโรป้า ลีก เป็นถ้วยเมเจอร์แรกของอดีตนายธนาคารที่หลงใหลในกีฬาฟุตบอล ภาพที่เขาก้มลงมองเหรียญรางวัลในมือของตัวเองแล้วยิ้มกับความสำเร็จนั้นเงียบ ๆ เพียงลำพัง มันตอกย้ำและแสดงให้เห็นว่า สุดท้ายความพยายามจะนำมาซึ่งความสำเร็จ มันอาจจะใช้เวลานาน แต่เมื่อเวลามันเหมาะสม ดอกผลแห่งความพยายามจะเบ่งบาน และสร้างความสุขให้เสมอ
อนาคตของซาร์รี่ สุดท้ายแล้ว จะได้คุม เชลซี ต่อหรือไม่ หรือว่าจะย้ายไป ยูเวนตุส อย่างที่เป็นข่าวลืออยู่ในตอนนี้
แต่อย่างน้อย ๆ เขาคือผู้เขียนประวัติศาสตร์เพิ่มให้กับ เชลซี และขึ้นชื่อว่าพา สิงโตลอนดอน คว้าถ้วยแชมป์ ยูโรป้า ลีก แบบสมศักดิ์ศรี เขาควรได้เครดิตจากแฟนบอลมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ซาร์รี่เป็นผู้ถูกตีค่าต่ำเกินไป”

เพิ่มเติม >> ราคาบอลไหลแรง เว็บนอก


Comments